จริงๆก็ไม่ได้มา Vs. อะไรกัน
แต่จะสรุปความเข้าใจผิดบางอย่าง สั้นๆ เข้าใจง่ายๆให้เพื่อนๆได้รับรู้กันให้ถูกต้อง
**ก่อนจะเข้าเรื่องเลยคือ น้ำตาลไม่ใช่ตัวการทำให้อ้วนแน่ๆ แคลลอรี่ต่างหาก อันนี้คือจบนะ
เราเคยได้ยินว่า โคเรสเตอรอล ทำให้หลอดเลือดหัวใจอุดตัน เป็นโรคหัวใจ จริงๆ แล้วต้นตอต้นเหตุมาจาก น้ำตาล High Glucose Level ในกระแสเลือด ไปทำให้หลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจเสียหาย แถมลดสารจำพวก Vasodilation, Nitric Oxide ลง ขนส่งออกซิเจนลำบากขึ้นนิดนึง
และเนื่องจากเมื่อ
น้ำตาลขึ้น⬆️
Insulin ⬆️
HGH จึงไม่ได้ออกมาช่วยซ่อมแซมเจ้าตัวหลอดเลือดหัวใจ
โคเรสเตอรอลเลยต้องมาเป็นพระเอก เป็นหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินเข้าไปอุด ไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่เสียหายแทน แต่พอโคเรสเตอรอลเยอะไป เนื่องจาก น้ำตาลก็ยังกินบ่อย จึงเกิดภาวะอุดตัน ซึ่งเราก็ไปโทษโคเรสเตอรอล ลดอาหารประเภทที่มีโคเรสเตอรอลลง ทั้งๆที่ไม่ใช่ตัวการ
และการลด โคเรสเตอรอลลงทำให้ร่างกายเราผลิตฮอร์โมนต่างๆได้น้อยลง Sex Hormones ลดลง ร่างกายซ้อมแซมช้าลง ตับไม่ผลิตน้ำดีมาช่วยละลายวิตามิน
โคเรสเตอรอลเราผลิตหลักจากตับ ส่วนที่มาจากอาหารนั้นอาจจะเพียง 10% และการรับประทานอาหารที่มีโคเรสเตอรอลมาก ตับก็เพียงแค่ลดหน้าที่การผลิตลดลงเป็น Counter Balance เท่านั้นเอง
ฉะนั้นสรุปคือ โคเรสเตอรอลไม่ได้ทำให้เกิดอะไรกับสุขภาพ แต่กลับเป็นน้ำตาล ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ต่างหาก
อ้างอิง : https://www.nhs.uk/news/heart-and-lungs/study-says-theres-no-link-between-cholesterol-and-heart-disease/
ในนักกีฬาประเภท High Impact, ผู้ที่ต้องการ Short Burt Energy เยอะๆนั้น การรับประทานน้ำตาลแทบจะไม่ได้มีผลอะไรถ้ารับประทานในปริมาณที่ร่างกายต้องการ แถมจะช่วยประสิทธิภาพทางการกีฬาอีกต่างหาก และนักกีฬาก็มีการออกกำลังกาย ออกแรง เผาน้ำตาล เผาแคลลอรี่ และฟิตกว่าคนทั่วไปมาก จึง Counter Balance กันอีกนั่นเอง
ที่เห็นจะมีอันตรายมากก็คนการรับประทานน้ำตาลที่มากเกินไปของผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายและผู้ที่มีโรคแทรกซ้อน เบาหวาน เบาหวานแฝง เท่านั้น
Comments